“มาดามบุษ” พอใจจอมพลังชายไทยในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019
“มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ พอใจจอมพลังชายไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก หลังช่วยกันคว้าไปได้รวม 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 เก็บคะแนนะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จ.เชียงใหม่ ส่วนการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ต่างชาติชื่นชม ไทยทำได้ดี เป็นที่ประทับใจ
การแข่งขันยกน้ำหนักอีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 (เก็บคะแนนะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันสุดท้าย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่มีจอมพลังไทย ลงสนามแล้ว สรุปผลงานจากวันแรกเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ปรากฎว่า ทีมยกเหล็กชายไทย ทำไปได้รวมทั้งหมด 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง
โดย 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ทำได้จาก ธาดา สมบุญอ้วน รุ่น 55 ก.ก.ชาย 3 เหรียญทอง, วีรภัทร บุญหลั่ง รุ่น 89 ก.ก.ชาย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน, บัญญัติ ท้าวนอก รุ่น 89 ก.ก.ชาย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ นนทพัฒ์ ธานีวรรณ รุ่น 73 ก.ก.ชาย 1 เหรียญเงิน
หลังการแข่งขัน นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่จอมพลังของไทยลงแข่งขันน้อยเกินไป หากลงมากกว่านี้ โอกาสจะคว้าเหรียญทองจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอใจในแง่ของฟอร์มการยกเหล็กของทุกคน เพราะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก อาจจะมีข้อผิดพลาดในการเรียกเหล็กของทีมโค้ชบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับปรุงแก้ไขกันได้ อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของผู้ฝึกสอนในจังหวะชี้เป็นชี้ตายยังไม่เด็ดขาดนัก
“เสียดายมากกว่าที่นักกีฬาของเราไม่ได้ลงแข่งมากกว่านี้ เนื่องจากปัญหาบางประการอย่างที่ทราบกันดี ไม่เช่นนั้นเราคงมีเหรียญทองมากกว่าที่ได้ แต่ในแง่ของฟอร์มการยกน้ำหนักของทุกคน ถือว่าดี น่าพอใจ มีพัฒนาการขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บางเรื่องอาจจะมีผิดพลาดบ้าง เช่นการเรียกน้ำหนักเหล็กของโค้ช แต่เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของแต่ละคน จังหวะที่จะต้องเรียกเหล็กเพื่อหลอกคู่ต่อสู้ หรือลุยเพื่อแย่งเหรียญยังทำได้ไม่ดีนัก คงจะต้องแก้ไขกันต่อไป”
ส่วนรูปแบบการจัดแข่งขันครั้งนี้ นางบุษบา กล่าวว่า ทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทุกชาติที่เข้าร่วม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศไทยจัดงานยิ่งใหญ่และสมบูรณ์เทียบเท่าระดับโลก บางประเทศที่เคยไปร่วมแข่งมา ยังทำสู้ประเทศไทยไม่ได้ รวมถึงจ.เชียงใหม่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้นักกีฬามีโอกาสได้พักผ่อนหลังทำการแข่งขันเสร็จแล้ว เรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายสปอร์ตทัวริซึ่ม ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้กีฬานั้นควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวด้วย
“ถือว่าประสบความสำเร็จมากในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เพราะทั้งเชียงใหม่และประเทศไทย ได้รับคำชมเชยจากทุก ๆ คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน สนามแข่งจัดได้สวยงาม การรับส่งนักกีฬา ที่พัก อาหาร ทุกคนเอ่ยปากว่ายังไม่เคยเจอที่ไหนทำได้ดีเหมือนที่ประเทศไทยทำ” นางบุษบา กล่าว