Skip to main content

ข่าวประชาสัมพันธ์

สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ จับมือกับเมืองพัทยา จัดศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019

 สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จับมือกับเมืองพัทยา โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เตรียมพร้อมจัดศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 ระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อย่างย่ิงใหญ่ ทุ่มงบประมาณรวม 100 ล้านบาท เพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม รองรับนักกีฬาจากทั่วโลกไม่น้อยกว่า 90 ชาติ 800 คน 
“เสธ.ยอด” พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย โดยตน และ พลอากาศเอกจิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์ อุปนายกสมาคมฯ ได้ร่วมประชุมกับนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 ระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมประเภทบุคคล ตามระบบใหม่ ก่อนไปมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมในเบื้องต้น ซึ่งเมืองพัทยา ที่ร่วมมือกับสมาคมฯ ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แข่งขัน โรงแรมที่พัก ระบบขนส่ง อาสาสมัคร ซึ่งจะเข้ามาช่วยในเรื่องของการแปลภาษาของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ชาติต่าง ๆ
นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของงบประมาณในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวม 70 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ของการจัดงาน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 30 ล้านบาทที่ต้องจ่ายให้สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ และค่าจัดการแข่งขันอีก 40 ล้านบาท ส่วนสมาคมฯ ออกงบประมาณ 20 ล้านบาท และเมืองพัทยา ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท รวมแล้วงบประมาณที่ใช้ในครั้งนี้เป็นยอดรวม 100 ล้านบาท ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมที่จะจัดการแข่งขันครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ ให้สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง พร้อมทุกด้าน เพื่อรองรับนักกีฬาจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาไม่น้อยกว่า 90 ชาติ 800 คน
“นอกจากนี้ ก่อนการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.2562 สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ จะมีการประชุมใหญ่ที่เมืองพัทยา ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีวาระสำคัญในการแก้ไขธรรมนูญข้อบังคับของสหพันธ์ฯ โดยจะมีผู้บริหารของสหพันธ์ฯ และชาติต่าง ๆ ร่วมประชุมอีกไม่น้อยกว่า 150 คน” พลตรีอินทรัตน์ กล่าว

  • ฮิต: 1401

มอบเงินช่วยเหลือ เกสร ชูบาล อดีตจอมพลังหญิงไทย

สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ไม่ทอดทิ้ง มอบเงินช่วยเหลือ เกสร ชูบาล อดีตจอมพลังหญิงไทย “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมฯ เผย สมาคมฯ ได้มอบเงิน 123,985.50 บาท เพื่อให้ เกสร นำไปชำระหนี้ เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณี น.ส.เกสร ชูบาล อดีตจอมพลังหญิงทีมชาติไทย ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันชีวิตต้องพบกับความยากลำบาก ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด จังหวัดตรัง ประกอบกับมีหลายโรครุมเร้าด้วยนั้น สมาคมฯ ได้ประสานกับ น.ส.เกสร อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

และล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ได้ส่งผู้แทนไปเยี่ยม ให้กำลังใจ ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง พร้อมกับมอบเงิน จำนวน 123,985.50 บาท เพื่อให้ น.ส.เกสร นำไปชำระหนี้ เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่กู้ยืมมาเรียนต่อจนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย ก่อนหน้านี้

โดยมี พล.อ.อ.จิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์, พล.ท.พิบูลย์ วิเชียรวรรณ ผู้แทนจากสมาคมฯ ร่วมด้วย นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง, นายพิสิษฐ์ ชาญรังษี ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง และนายสมบูรณ์ อุทัยเรียนกุล นายกกีฬาจังหวัดตรัง ทำพิธีมอบให้ดังกล่าว

นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายถิรชัย วุฒิธรรม ในนามประธานมูลนิธินักกีฬาไทย ยังได้ร่วมมอบเงินให้กับ น.ส.เกสร เพิ่มเติมอีก 10,000 บาท ในโอกาสนีด้วย

บรรยายภาพ... ช่วยเหลือ ... พล.อ.อ.จิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์ และ พล.ท.พิบูลย์ วิเชียรวรรณ ผู้แทนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ไปเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.เกสร ชูบาล อดีตจอมพลังหญิงทีมชาติไทย พร้อมมอบเงิน จำนวน 123,985.50 บาท เพื่อให้ น.ส.เกสร นำไปชำระหนี้ เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2561

  • ฮิต: 1449

ทีมจอมพลังสาวไทย ได้อันดับ 2 คะแนนรวม

ทีมจอมพลังสาวไทย ได้อันดับ 2 คะแนนรวม เป็นรองแค่จีน ในศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่เติร์กเมนิสถาน ส่วนการแข่งขันครั้งต่อไป ไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี 

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ซึ่งปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จอมพลังของไทย ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งจำนวนเหรียญ ที่ช่วยกันคว้ามาได้ทั้งหมด 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง รวมไปถึงแต้มสะสมตัวบุคคลสำหรับควอลิฟายไปโตเกียวเกมส์ ก็ออกมาได้น่าพอใจเช่นเดียวกัน

“จากผลงานดังกล่าว ทำให้ทีมหญิงของไทย มีคะแนนรวมออกมาเป็นอันดับ 2 ด้วยการคว้า 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง เป็นรองเพียงแค่จีนเท่านั้น ที่ทำไปได้ 11 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว

สำหรับผลงาน 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ทีมยกเหล็กไทย ทำได้จาก รุ่น 45 กก. ธัญญ่า สุขเจริญ 3 เหรียญทอง และจิราพรรณ นันทวงษ์ 3 เหรียญเงิน, รุ่น 55 กก.หญิง สุกัญญา ศรีสุราช 3 เหรียญทอง, รุ่น 49 กก. หญิง ชยุตรา ประมงคล 2 เหรียญทอง และโสภิตา ธนสาร 1 เหรียญทอง, รุ่น 64 กก.หญิง รัตนวรรณ์ วามะลุน 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง, รุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง ดวงอักษร ใจดี 2 เหรียญทองแดง และ

รุ่น 55 กก. ชาย ธีรพัฒน์ ชมชื่น 1 เหรียญทองแดง

นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ในช่วงพิธีปิดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ซึ่งมี ดร.ทามาส อาจาน ประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เป็นประธาน ได้มีพิธีมอบธงการแข่งขันครั้งต่อไป ให้กับประเทศไทย ที่จะรับหน้าที่จัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2562 อย่างเป็นทางการ ซึ่งในส่วนของไทยมี พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ ผู้จัดการทีม เป็นผู้แทนรับมอบธงดังกล่าว

“การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นรายการสะสมคะแนนไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 สมาคมยกน้ำหนักฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรับหน้าเสื่อในการจัดระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวในตอนท้าย

  • ฮิต: 5004

“ส้ม” ดวงอักษร ใจดี จอมพลังสาวไทย คว้าส่งท้าย 2 เหรียญทองแดง

ในศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่เติร์กเมนิสถาน รวมเบ็ดเสร็จทีมยกเหล็กไทย ทำไปได้ทั้งหมดในรายการนี้ 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยกน้ำหนักฯ เผยภาพรวมพอใจ ทั้งจำนวนเหรียญรางวัล และการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 แต่หนทางยังอีกยาวไกล ต้องกลับไปเตรียมนักกีฬาให้ดีต่อเนื่อง เพราะยังเหลือการควอลิฟายไปโตเกียวเกมส์ อีกถึง 5 รายการ
ความเคลื่อนไหวของจอมพลังทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 (รายการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน หลังจากทีมยกเหล็กไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยกันคว้าไปแล้ว 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จากรุ่น 45 กก. ธัญญ่า สุขเจริญ 3 เหรียญทอง และจิราพรรณ นันทวงษ์ 3 เหรียญเงิน, รุ่น 55 กก.หญิง สุกัญญา ศรีสุราช 3 เหรียญทอง, รุ่น 49 กก. หญิง ชยุตรา ประมงคล 2 เหรียญทอง และโสภิตา ธนสาร 1 เหรียญทอง, รุ่น 55 กก. ชาย ธีรพัฒน์ ชมชื่น 1 เหรียญทองแดง และรุ่น 64 กก.หญิง รัตนวรรณ์ วามะลุน 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี ขึ้นเวทีส่งท้ายให้ทีมยกเหล็กไทย ในรุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง กลุ่มเอ ซึ่งผลปรากฎว่า สาวไทย คว้ามาได้อีก 2 เหรียญทองแดง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 167 กก. และน้ำหนักรวม 296 กก. ส่วนท่าสแนทช์ ได้อันดับ 4 ยกได้ 129 กก. ขณะที่ คาชิรินา ทาเทียนา จากรัสเซีย กวาด 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 145 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 185 กก. และน้ำหนักรวม 330 กก. ส่วน เมง ซูปิง จากจีน คว้า 3 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 143 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 184 กก. และน้ำหนักรวม 327 กก. ขณะที่ คิม คุก วาง จากเกาหลีเหนือ ได้ 1 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 130 กก. ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ได้อันดับ 4 ยกได้ 165 กก. และน้ำหนักรวม อันดับ 4 เช่นกัน สถิติ 295 กก. ด้าน “นก” ชิดชนก พูลทรัพย์สกุล สาวไทยอีกคน แข่งขันกลุ่มบี รุ่นเดียวกัน ท่าสแนทช์ ยกได้ 127 กก. จบอันดับรวมที่ 6 ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 153 กก. จบอันดับรวมที่ 6 และน้ำหนักรวม สถิติ 280 กก. จบอันดับรวมที่ 6
สรุปผลงานจอมพลังไทย ในรายการนี้ ทำไปได้ทั้งหมด 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ขณะที่ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมผลงานของทีมยกเหล็กไทยในครั้งนี้ ออกมาน่าพอใจ ทั้งจำนวนเหรียญรางวัล และการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หนทางยังถือว่าอีกยาวไกล จะต้องกลับไปเตรียมนักกีฬาให้ดีต่อเนื่อง เพราะยังเหลือการควอลิฟายไปโตเกียวเกมส์ ตามระบบใหม่ที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กำหนดออกมา อีกถึง 5 รายการเลยทีเดียว

 

  • ฮิต: 3451