Skip to main content

ข่าวประชาสัมพันธ์

แถลงการณ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เรื่อง การตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ฉบับที่ ๓

แถลงการณ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย

เรื่อง
การตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ฉบับที่ ๓

......................................

ตามที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) ได้ตรวจพบสารต้องห้ามในปัสสาวะของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย (AAF’s) ที่ส่งเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี ๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๒ – ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน จำนวน ๘ รายนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนการแข่งขัน สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้มีมาตรการ ระมัดระวังและป้องกันมาโดยตลอด   อีกทั้งได้รับการตรวจปัสสาวะ  ของนักกีฬาจากศูนย์ตรวจสอบสารต้องห้ามในนักกีฬาของประเทศไทย (National Doping Control Centre)  โดยสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาของประเทศไทย (Doping Control Agency of Thailand : DCAT)ตรวจวิเคราะห์มาโดยตลอด แต่ไม่พบการใช้สารต้องห้าม    ในนักกีฬาดังกล่าวแต่อย่างใดและสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ(IWF)ก็ทำการตรวจปัสสาวะและเลือดของนักกีฬามาโดยตลอด รวมถึงการตรวจปัสสาวะก่อนการแข่งขันระหว่างการแข่งขันและหลังการแข่งขันชิงชนะเลิศ      แห่งโลกครั้งนี้ด้วย ซึ่งไม่พบการใช้สารต้องห้ามแต่อย่างใด

               ต่อมาสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) ได้ประสานกับแผนกข้อมูลประจำตัวนักกีฬาของ
IWF (IWF Athlete Passport Management Unit) ณ เมืองโคโลญจน์
ทำการตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติมในนักกีฬาเป้าหมาย (Target) เฉพาะประเทศไทย
โดยใช้เทคนิคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น GC - C-IRMS (Gas Chromatography-Combustion-Isotope
Ratio Mass Spectrometry) และแจ้งว่ามีการตรวจพบสารต้องห้ามในนักกีฬาดังกล่าว

               สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย
ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงสามารถอธิบายกับสาธารณชนได้
แม้ว่าจะยังไม่ตรวจสอบในสารตัวอย่างในขวด บี ก็ตาม สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย
คำนึงถึงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการบริหารของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยจะไม่ได้เป็นผู้กระทำก็ตาม
                  

               สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เป็นสมาคมที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สร้างนักกีฬาให้ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันในระดับนานาชาติสร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับประเทศชาติมาเป็นระยะเวลายาวนานจนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและนานาชาติ และยังคงมีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ที่จะส่งเสริมพัฒนากีฬายกน้ำหนักของประเทศให้พัฒนายิ่งๆขึ้นไป ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาคมและประเทศไทย จึงขอประกาศเจตนารมณ์ ดังนี้

๑. สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

๒.สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี ๒๕๖๓ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งขันเพื่อคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันทุกรายการ

๓.เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อประเทศไทยและต่อมวลสมาชิกของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะยังคงยืนยันรับเป็นผู้รับผิดชอบจัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๗  กันยายน  ๒๕๖๒ ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในนามของประเทศไทยต่อไป โดยไม่ส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน

                                                                สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย

                                                                     
๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒

  • ฮิต: 1749

“มาดามบุษ” พอใจจอมพลังชายไทยในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019

“มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ พอใจจอมพลังชายไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก หลังช่วยกันคว้าไปได้รวม 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 เก็บคะแนนะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จ.เชียงใหม่ ส่วนการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ต่างชาติชื่นชม ไทยทำได้ดี เป็นที่ประทับใจ 

การแข่งขันยกน้ำหนักอีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 (เก็บคะแนนะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันสุดท้าย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่มีจอมพลังไทย ลงสนามแล้ว สรุปผลงานจากวันแรกเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ปรากฎว่า ทีมยกเหล็กชายไทย ทำไปได้รวมทั้งหมด 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง 

โดย 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ทำได้จาก ธาดา สมบุญอ้วน รุ่น 55 ก.ก.ชาย 3 เหรียญทอง, วีรภัทร บุญหลั่ง รุ่น 89 ก.ก.ชาย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน, บัญญัติ ท้าวนอก รุ่น 89 ก.ก.ชาย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ นนทพัฒ์ ธานีวรรณ รุ่น 73 ก.ก.ชาย 1 เหรียญเงิน 

หลังการแข่งขัน นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่จอมพลังของไทยลงแข่งขันน้อยเกินไป หากลงมากกว่านี้ โอกาสจะคว้าเหรียญทองจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอใจในแง่ของฟอร์มการยกเหล็กของทุกคน เพราะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก อาจจะมีข้อผิดพลาดในการเรียกเหล็กของทีมโค้ชบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับปรุงแก้ไขกันได้ อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของผู้ฝึกสอนในจังหวะชี้เป็นชี้ตายยังไม่เด็ดขาดนัก

“เสียดายมากกว่าที่นักกีฬาของเราไม่ได้ลงแข่งมากกว่านี้ เนื่องจากปัญหาบางประการอย่างที่ทราบกันดี ไม่เช่นนั้นเราคงมีเหรียญทองมากกว่าที่ได้ แต่ในแง่ของฟอร์มการยกน้ำหนักของทุกคน ถือว่าดี น่าพอใจ มีพัฒนาการขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บางเรื่องอาจจะมีผิดพลาดบ้าง เช่นการเรียกน้ำหนักเหล็กของโค้ช แต่เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของแต่ละคน จังหวะที่จะต้องเรียกเหล็กเพื่อหลอกคู่ต่อสู้ หรือลุยเพื่อแย่งเหรียญยังทำได้ไม่ดีนัก คงจะต้องแก้ไขกันต่อไป”

ส่วนรูปแบบการจัดแข่งขันครั้งนี้ นางบุษบา กล่าวว่า ทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทุกชาติที่เข้าร่วม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศไทยจัดงานยิ่งใหญ่และสมบูรณ์เทียบเท่าระดับโลก บางประเทศที่เคยไปร่วมแข่งมา ยังทำสู้ประเทศไทยไม่ได้ รวมถึงจ.เชียงใหม่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้นักกีฬามีโอกาสได้พักผ่อนหลังทำการแข่งขันเสร็จแล้ว เรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายสปอร์ตทัวริซึ่ม ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้กีฬานั้นควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวด้วย

“ถือว่าประสบความสำเร็จมากในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เพราะทั้งเชียงใหม่และประเทศไทย ได้รับคำชมเชยจากทุก ๆ คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน สนามแข่งจัดได้สวยงาม การรับส่งนักกีฬา ที่พัก อาหาร ทุกคนเอ่ยปากว่ายังไม่เคยเจอที่ไหนทำได้ดีเหมือนที่ประเทศไทยทำ” นางบุษบา กล่าว 

  • ฮิต: 3126

#### เหรียญทองมาแว้ว!!! มาทีเดียว 3 เลย “วีรภัทร” สลับ “บัญญัติ” มีเหรียญคล้องคอ รุ่น 89 ก.ก.ชาย ศึกอีแกทส์ 2019 วันที่สาม ###

... ...
...
การแข่งขันยกน้ำหนักอีแกทส์คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 (ควอลิฟิเคชั่น อีเวนท์ ฟอร์ โตเกียว 2020) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา(วันเสาร์ที่ 9 ก.พ.2562) มีจอมพลังของไทยลงทำการแข่งขัน 2 คนคือ บัญญัติ ท้าวนอก และวีรภัทร บุญหลั่งในรุ่น 89 ก.ก.ชาย

... ท่าสแนตช์ บัญญัติ ยกผ่านฉลุยทั้งสามครั้งที่ 148, 155, 155 ก.ก. คว้าเหรียญทองไปครองเป็นเหรียญแรกของทีมจอมพลังไทยในการแข่งขันครั้งนี้ ส่วน วีรภัทร บุญหลั่ง เพื่อนร่วมทีมชาติ ไม่น้อยหน้ากัน คว้าเหรียญเงิน 154 ก.ก. (ยกผ่านทั้งสามครั้งที่ 145, 150, 150 ก.ก.) ส่วนเหรียญทองแดง พาร์ค มู ซอง ของเกาหลีใต้ คว้าไปที่ 141 ก.ก.

... ส่วนคลีนแอนด์เจิร์ค ยังคงเป็นจอมพลังของไทยที่คว้าเหรียญทองได้อีก แต่ครั้งนี้สลับกันเป็น วีรภัทร บุญหลั่ง ที่เป็นคนได้ โดยยกติดแบบไม่ยากเย็นที่ 185 ก.ก. (ยกผ่านทั้งสามครั้ง 176, 179, 185 ก.ก.) ด้านบัญญัติ ยกผ่านครั้งแรก 171 ก.ก. ครั้งที่สองเรียก 177 ก.ก. แต่ยกไม่ผ่าน มาแก้ตัวได้ในครั้งสุดท้าย 177 ก.ก. ได้เหรียญทองแดง เหรียญเงิน พาร์ค มู ซอง(เกาหลีใต้) 178 ก.ก.

... วีรภัทร ยังได้เหรียญทองน้ำหนักรวมอีกหนึ่งเหรียญที่ 339 ก.กก. เหรียญเงิน บัญญัติ ท้าวนอก 332 ก.ก. เหรียญทองแดง พาร์ค มู ซอง(เกาหลีใต้) 319 ก.ก.

... หลังจบการแข่งขัน วีรภัทร บุญหลั่ง กล่าวว่า ดีใจที่ได้เหรียญในครั้งนี้ สถิติในวันแข่งดีกว่าที่เคยซ้อมมา ตั้งเป้าไว้เพียงแค่ติดเหรียญเงินเท่านั้น แต่เมื่อได้ถึงเหรียญทองจึงภูมิใจมาก

... ส่วน บัญญัติ ท้าวนอก กล่าวว่า พยายามทำอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ เมื่อได้เหรียญก็รู้สึกดีใจมาก ส่วนเรื่องการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปโอลิมปิคที่ญี่ปุ่นปีหน้า จะทำผลงานให้ดีเป็นเรื่อย ๆ

  • ฮิต: 2748

#### “นนทพัฒน์” เบียดแย่งเหรียญเงินรุ่น 73 ก.ก.ชายได้สำเร็จ ศึกอีแกทส์คัพวันที่สอง ####

...
... การแข่งขันยกน้ำหนักอีแกทส์คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 (ควอลิฟิเคชั่น อีเวนท์ ฟอร์ โตเกียว 2020) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา(วันศุกร์ที่ 8 ก.พ.2562) มีจอมพลังของไทยลงทำการแข่งขัน 1 คนในรุ่น 73 ก.ก.ชายคือ นนทพัฒน์ ธานีวรรณ

... ท่าสแนตช์ นนทพัฒน์ ดวลกับ ตริยาทโน่ ของอินโดนีเซียอย่างสนุก จอมพลังหนุ่มไทยยกผ่านก่อนที่ 139 ก.ก. ส่วนหนุ่มอิเหนายกผ่านเช่นกันที่ 137 ก.ก. ครั้งที่สองตริยาทโน่ขึ้นยกก่อนที่ 142 ก.ก. และยกผ่านได้ ส่วนนนทพัฒน์เรียก 142 ก.ก.และยกผ่านเช่นกัน แม้น้ำหนักเหล็กจะเท่ากันแต่หนุ่มอินโดฯ ขึ้นยกก่อนจึงเป็นคนที่นำอยู่ ครั้งสุดท้ายตริยาทโน่เรียก 146 ก.ก.แต่ทรงตัวไม่ดี เหล็กตกหลัง พลาดไปในครั้งนี้ ด้านนนทพัฒน์เรียก 146 ก.ก.เท่ากัน หากยกผ่านจะคว้าเหรียญทองในท่านี้ทันที ผล จอมพลังหนุ่มไทยประคองเหล็กไม่อยู่ ปล่อยตกหลัง พลาดไป ได้เพียงแค่เหรียญเงิน เหรียญทองได้แก่ ตริยาทโน่(อินโดนีเซีย) 142 ก.ก. เหรียญเงิน นนทพัฒน์ ธานีวรรณ 142 ก.ก.(ขึ้นยกหลังตริยาทโน่) เหรียญทองแดง บั๊ค จู ฮโย(เกาหลีใต้) 141 ก.ก.

... ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ค นนทพัฒน์ ได้อันดับ 4 ยกได้ 170 ก.ก. และน้ำหนักรวม 312 ก.ก. ได้อันดับ 4 เช่นกัน

...เหรียญทองคลีนแอนด์เจิร์ค บั๊ค จู ฮโย(เกาหลีใต้) 181 ก.ก. เหรียญเงิน ตริยาทโน่(อินโดนีเซีย) 180 ก.ก. เหรียญทองแดง มิยาโมโตะ มาซาโนริ(ญี่ปุ่น) 173 ก.ก.

... เหรียญทองน้ำหนักรวม ตริยาทโน่(อินโดนีเซีย) 322 ก.ก. เหรียญเงิน บั๊ค จู ฮโย(เกาหลีใต้)322 ก.ก. เหรียญทองแดง มิยาโมโตะ มาซาโนริ(ญี่ปุ่น) 313 ก.ก.

... รุ่น 67 ก.ก.ชาย เดนี่ จากอินโดนีเซียคว้า 3 เหรียญทอง ท่าสแนตช์ 132 ก.ก. คลีนแอนด์เจิร์ค 171 ก.ก. น้ำหนักรวม 303 ก.ก. เหรียญเงิน สแนตช์ เจเรมี่ ลัลรินนุนก้า(อินเดีย) 131 ก.ก. คลีนแอนด์เจิร์ค รูเบน คาโทอาเทา(คีราบาติ) 160 ก.ก. น้ำหนักรวม เจเรมี่ ลัลรินนุนก้า(อินเดีย) 288 ก.ก. เหรียญทองแดง สแนตช์ รูเบน คาโทอาเทา(คีราบาติ) 125 ก.ก. คลีนแอนด์เจิร์ค เจเรมี่ ลัลรินนุนก้า(อินเดีย) 157 ก.ก. น้ำหนักรวม รูเบน คาโทอาเทา(คีราบาติ) 285 ก.ก.

...ด้าน นนทพัฒน์ ธานีวรรณ เผยหลังจบการแข่งขันว่า ดีใจที่ได้เหรียญในครั้งนี้ แต่ยังทำได้ไม่ดีเท่าตอนซ้อม สำหรับน้ำหนักเหล็กในท่าสแนตช์ครั้งที่สองที่ตนยก 142 ก.ก. ซึ่งถ้าเรียก 143 ก.ก.ก็จะได้เหรียญทองนั้น ตนไม่ทราบเพราะมีหน้าที่ยกเพียงอย่างเดียว เรื่องน้ำหนักเหล็กโค้ชจะเป็นคนเรียกให้ ส่วนโอกาสที่จะได้ไปโอลิมปิค 2020 นั้นยังไม่ได้นึกถึง เพราะยังต้องปรับปรุงข้อผิดพลาดอีกหลายอย่าง

... ทาง นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เผยว่าเรื่องของสารกระตุ้นที่ถูกตรวจพบในนักกีฬาไทย ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบบี แต่ไม่กังวล เนื่องจากได้เตรียมทีมนักกีฬาอีกหนึ่งชุดไว้ทดแทนรุ่นพี่อยู่แล้ว
“เราไม่กังวลในเรื่องของตัวนักกีฬาว่าจะมีส่งแข่งหรือไม่ เพราะสมาคมฯ ได้เตรียมนักกีฬาเอาไว้หลายชุด ทำการฝึกซ้อมอยู่ตลอด มีดาวรุ่งเตรียมขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่อยู่ทุกรุ่น เราเตรียมมานาน 8 ปีแล้ว บางคนเก่งกว่ารุ่นพี่เสียอีก แต่ด้วยระบบของสมาคมฯ เราจะให้เกียรติรุ่นพี่ขึ้นชุดใหญ่ก่อน รุ่นน้องถึงแม้ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็จะต้องรอเวลาถึงจะก้าวขึ้นสู่ทีมใหญ่ได้”

... สำหรับวันพรุ่งนี้(วันเสาร์ที่ 9 ก.พ.) บัญญัติ ท้าวนอก และธีระพัฒน์ บุญหลั่ง จะลงทำการแข่งขันในรุ่น 89 ก.ก.ชาย เวลา 15.00 น.

  • ฮิต: 1833