ทีมจอมพลังสาวไทย ได้อันดับ 2 คะแนนรวม เป็นรองแค่จีน ในศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่เติร์กเมนิสถาน ส่วนการแข่งขันครั้งต่อไป ไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ซึ่งปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จอมพลังของไทย ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งจำนวนเหรียญ ที่ช่วยกันคว้ามาได้ทั้งหมด 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง รวมไปถึงแต้มสะสมตัวบุคคลสำหรับควอลิฟายไปโตเกียวเกมส์ ก็ออกมาได้น่าพอใจเช่นเดียวกัน
“จากผลงานดังกล่าว ทำให้ทีมหญิงของไทย มีคะแนนรวมออกมาเป็นอันดับ 2 ด้วยการคว้า 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง เป็นรองเพียงแค่จีนเท่านั้น ที่ทำไปได้ 11 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว
สำหรับผลงาน 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ทีมยกเหล็กไทย ทำได้จาก รุ่น 45 กก. ธัญญ่า สุขเจริญ 3 เหรียญทอง และจิราพรรณ นันทวงษ์ 3 เหรียญเงิน, รุ่น 55 กก.หญิง สุกัญญา ศรีสุราช 3 เหรียญทอง, รุ่น 49 กก. หญิง ชยุตรา ประมงคล 2 เหรียญทอง และโสภิตา ธนสาร 1 เหรียญทอง, รุ่น 64 กก.หญิง รัตนวรรณ์ วามะลุน 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง, รุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง ดวงอักษร ใจดี 2 เหรียญทองแดง และ
รุ่น 55 กก. ชาย ธีรพัฒน์ ชมชื่น 1 เหรียญทองแดง
นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ในช่วงพิธีปิดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ซึ่งมี ดร.ทามาส อาจาน ประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เป็นประธาน ได้มีพิธีมอบธงการแข่งขันครั้งต่อไป ให้กับประเทศไทย ที่จะรับหน้าที่จัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2562 อย่างเป็นทางการ ซึ่งในส่วนของไทยมี พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ ผู้จัดการทีม เป็นผู้แทนรับมอบธงดังกล่าว
“การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นรายการสะสมคะแนนไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 สมาคมยกน้ำหนักฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรับหน้าเสื่อในการจัดระหว่างวันที่ 18-27 ก.ย.ปีหน้า ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวในตอนท้าย