ข่าวประชาสัมพันธ์

ทุบกันเละคาเวที!!! หลิวเสี่ยวจุ้น กับ หลี่ต้าหยิน จอมพลังแดนมังกร สร้างสถิติโลกขึ้นใหม่อีก

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย.2562) เป็นวันที่ห้าของการแข่งขัน รุ่น 81 ก.ก.ชาย

ท่าสแนตช์ เป็นการขับเคี่ยวระหว่าง 2 จอมพลังจีน หลิวเสี่ยวจุ้น และ หลี่ต้าหยินกับ 1 นักยกเหล็กอาร์เมเนีย อันดรานิค คาราเพทยัน จอมพลังแดนมังกรนั้นเรียกเหล็กคู่คี่กันมาโดยตลอด ซึ่งทั้งคู่ยกเหล็กพลาดในครั้งแรกเช่นกัน ส่วนอันดรานิคเรียกครั้งแรกที่ 168 ก.ก.ยกผ่าน แต่ในอีกสองครั้งถัดมากลับยกไม่ผ่านดีที่สุดจึงอยู่แค่ 168 ก.ก.เท่านั้น ด้าน หลิวเสี่ยวจุ้น เรียกครั้งสุดท้าย 171 ก.ก. ยกได้สำเร็จ ส่วน หลี่ต้าหยิน เรียกครั้งสุดท้าย 171 ก.ก.เท่ากัน เนื่องจากเป็นการการันตีเหรียญเอาไว้ก่อน เพราะถ้ายกไม่ผ่าน ซานติอาโก้ โรดาลเลกาซ ของโคลัมเบียจะได้เหรียญทองแดงทันที และตัวเองจะชวดเหรียญ ปรากฏว่า หนุ่มหลี่ ยกไม่พลาด คว้าเหรียญเงินไปครอง

สรุปท่าสแนตช์ เหรียญทอง หลิวเสี่ยวจุ้น 171 ก.ก., เหรียญเงิน หลี่ต้าหยิน 171 ก.ก.(ยกทีหลังหลิวเสี่ยวจุ้น), เหรียญทองแดง อันดรานิค คาราเพทยัน(อาร์เมเนีย) 168 ก.ก.

คลีนแอนด์เจิร์ค หลิวเสี่ยวจุ้น ยังความยอดเยี่ยมไว้ได้แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บในการยกครั้งที่สองก็ตาม หนุ่มหลิวคว้าเหรียญทองไปด้วยน้ำหนักเหล็ก 207 ก.ก. เป็นการสร้างสถิติใหม่ดีกว่าสถิติมาตรฐานโลกที่ตั้งไว้ 206 ก.ก. เหรียญเงิน หลี่ต้าหยิน 206 ก.ก., เหรียญทองแดง ยุนเดอร์ เนดิม เบย์ตูล่า(บัลแกเรีย) ที่ลงแข่งในคลาสบี 201 ก.ก.

... น้ำหนักรวม หลิวเสี่ยวจุ้นยังทุบสถิติโลกเดิมของ หลี่ต้าหยิน 375 ก.ก. ลงอย่างราบคาบ โดยหลิวเสี่ยวจุ้นทำได้ 378 ก.ก., เหรียญเงิน หลี่ต้าหยิน 377 ก.ก. ทำลายสถิติของตัวเองลงได้เช่นกัน, เหรียญทองแดง ซานติอาโก้ โรดาลเลกาซ(โคลัมเบีย) 363 ก.ก.

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 รายการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกไปโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ไฮไลท์อยู่ที่รุ่น 59 กก.ชาย กลุ่มเอ ผลปรากฎว่า กั๊วะ ซิง ชุน จากไต้หวัน คว้า 2 เหรียญทอง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 140 กก. และน้ำหนักรวม 246 กก. โดยเป็นการทำลายสถิติ ที่ตัวเองทำไว้ ในรายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เมืองหนิงโบ ของจีน ซึ่งครั้งนั้น ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทำไว้ที่ 137 กก. และน้ำหนักรวม ทำไว้ 243 กก. นอกจากนี้จอมพลังไต้หวัน ยังได้อีก 1 เหรียญเงิน จากท่าสแนทช์ 106 กก. ขณะที่ ชอย ฮโย ซิม จากเกาหลีเหนือ ทำได้ 1 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 107 กก. ทำลายสถิติเดิม ของ เกา ซิง ฉุน ของไต้หวัน ที่ทำไว้ 106 กก. และ 2 เหรียญเงิน จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 138 กก. และน้ำหนักรวม 245 กก. ด้าน เฉิน กุย หมิง จากจีน ซิว 3 เหรียญทองแดง จากท่าสแนทช์ 101 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 132 กก. และน้ำหนักรวม 233 กก.

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (วันศุกร์ที่ 20 ก.ย.2562) เป็นวันที่สามของการแข่งขัน รุ่น 67 ก.ก.ชาย

รุ่นนี้แบ่งเหรียญกันจนงงทั้งสามท่า ในท่าสแนตช์จอมพลังในกลุ่มเอไล่บี้กันอย่างเมามันส์ระหว่าง เฉินหลี่จวิน ของจีน กับ ดานิยาร์ อิสมายีลอฟ จากตุรกี แต่ปรากฏว่า เฟิ่งหลิวตง ของจีนอีกหนึ่งคนซึ่งลงแข่งในคลาสบี กลายเป็นตาอยู่คว้าเหรียญทองไปชนิดที่เจ้าตัวกลับที่พักไปแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องไปตามตัวกลับมารับเหรียญทองแบบมึน ๆ

เหรียญทอง สแนตช์ เฟิ่งหลิวตง(จีน) 153 ก.ก., เหรียญเงิน ดานิยาร์ อิสมายีลอฟ(ตุรกี) 150 ก.ก., ทองแดง เฉินลี่จวิน(จีน) 150 ก.ก.

สแนตช์ว่าสนุกแล้ว คลีนแอนด์เจิร์คยิ่งมันส์กว่า เมื่อเป็นการไล่ล่าเหรียญทองระหว่างจอมพลังแดนมังกรกับจอมพลังโสมแดง เฉินลี่จวิน กับพัคจองจู นอกจากจะแย่งเหรียญทองกันแล้ว ยังแย่งกันทำลายสถิติเหมือนกับเหล็กนั้นเป็นนุ่นที่ยกกันได้ง่าย ๆ

ผล พัคจองจู จากเกาหลีเหนือ คว้าเหรียญทองในท่านี้ไปครอง โดยยกได้ 188 ก.ก. และสร้างสถิติขึ้นมาใหม่ ทำลายสถิติเดิมของ เฉินลี่จวิน ที่ทำเอาไว้ 185 ก.ก.ลงอย่างราบคาบ, เหรียญเงิน เฉินลี่จวิน ซึ่งทำลายสถิติของตัวเองลงได้เช่นกันที่ 187 ก.ก., เหรียญทองแดง อัคคามยอน เออร์กาเชฟ(อุซเบกิสถาน) 182 ก.ก.

... น้ำหนักรวม เหรียญทอง เฉินลี่จวิน(จีน) 337 ก.ก., เหรียญเงิน เฟิ่งหลิวตง(จีน) 333 ก.ก. , เหรียญทองแดง พัคจองจู(เกาหลีเหนือ) 330 ก.ก.

นอกจากนี้ยังมีการสร้างสถิติโลกในรุ่นเยาวชนขึ้นใหม่อีกด้วยจาก อัคคามยอน เออร์กาเชฟ จากอุซเบกิสถาน โดยหนุ่มคาซัคฯ ทุบสถิติทั้งสามท่าที่ตัวเองเป็นคนทำเอาไว้ สแนตช์ยกได้ 146 ก.ก.(สถิติเดิม 142ก.ก.), คลีนแอนด์เจิร์คยกได้ 182 ก.ก.(สถิติเดิม 174 ก.ก.), น้ำหนักรวม 328 ก.ก.(สถิติเดิม 316 ก.ก.)