ข่าวประชาสัมพันธ์

จอมพลังไทยเฮ! ฐิตาพร ตีกา ประเดิมคว้า 2 เหรียญทองแดง รุ่น 49 กิโลกรัม ยุวชนหญิง ในศึกยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2565 ที่กรุงทาชเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน

การแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2565 ที่กรุงทาชเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน ล่าสุดจอมพลังไทยส่ง ฐิตาพร ตีกา ลงชิงชัยในรุ่น 49 กิโลกรัม ยุวชนหญิง กลุ่มบี ปรากฏว่า ท่าสแนทช์ ฐิตาพร เรียกเหล็กครั้งแรก 66 กิโลกรัม ยกผ่านไปได้ ครั้งที่ 2 เรียกเหล็กเพิ่มเป็น 69 กิโลกรัม แต่ยกไม่ผ่าน จากนั้นครั้งที่ 3 เพิ่มน้ำหนักเหล็กเป็น 70กิโลกรัม ยังแก้ตัวไม่สำเร็จ ทำให้สถิติท่าสแนทช์อยู่ที่ 66 กิโลกรัม ได้ที่ 4

ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ฐิตาพร ออกมายกครั้งแรกผ่านฉลุยที่ 82 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 เรียกเหล็กที่ 85 กิโลกรัม แม้จะดันเหล็กขึ้นได้สำเร็จ แต่กรรมการกลับคำตัดสินให้ยกไม่ผ่าน ทำให้ครั้งที่ 3 ต้องออกมายกที่น้ำหนักเดิม ก่อนจะแก้ตัวสำเร็จ ทำให้สถิติท่าคลีนแอนด์เจิร์กอยู่ที่ 85 กิโลกรัม และน้ำหนักรวม อยู่ที่ 151 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองแดงเช่นกัน นับเป็นการประเดิมเหรียญรางวัลให้จอมพลังไทยในรายการนี้ด้วย

ขณะที่ โรซาลินดา บี. ฟาอัสติโน จากฟิลิปปินส์ เหมาคนเดียว 3 เหรียญทอง ท่าสแนทช์ 71 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 90 กิโลกรัม, น้ำหนักรวม 161 กิโลกรัม

ทั้งนี้ โปรแกรมของนักยกนำ้หนักไทยรุ่นต่อไปจะมีในวันที่ 20 กรกฎาคม ได้แก่ วรพรต นาสุริวงศ์ รุ่น 73 กิโลกรัม ยุวชนชาย กลุ่มบี เวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย, โป๊ยเซียน ยอดสาร รุ่น 55 กิโลกรัม เยาชนหญิง กลุ่มเอ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย, วีรพล วิชุมา รุ่น 67กิโลกรัม เยาวชนชาย กลุ่มเอ เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

“ปุ๊กลุก” ศิริภุช (รัตติกาล) กุลน้อย อดีตนักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย พ้นมลทิน หลังคณะกรรมการไต่สวนอิสระของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ชี้ชัดไร้ความผิดทุกข้อกล่าวหา กรณีถูกแอบบันทึกภาพและบทสนทนา ไปออกอากาศผ่านสื่อทีวีเยอรมัน แล้วพาดพิงว่ามีการใช้สารต้องห้ามในวงการยกเหล็กไทย เรื่องที่ร้องมา จึงให้ยกและพับตกไปเนื่องจากปราศจากข้อเท็จจริง

นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย ผู้ประสานงานทางกฎหมายให้กับ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช (รัตติกาล) กุลน้อย อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย พร้อมด้วย ศิริภุช (รัตติกาล) และ นายสรศักย์ เรืองวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์ และที่ปรึกษาสากล จำกัด ในฐานะทนายความ แถลงข่าว ผลการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนอิสระของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กรณี ศิริภุช (รัตติกาล) ถูกแอบบันทึกภาพและบทสนทนา ไปออกอากาศผ่านสื่อทีวีเยอรมัน แล้วพาดพิงว่ามีการใช้สารต้องห้ามในวงการยกเหล็กไทย ที่ห้องมณฑาทิพย์ ชั้น 3 โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 กรกฏาคม 2565
นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย ผู้ประสานงานทางกฎหมายให้กับ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช (รัตติกาล) อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ ศิริภุช ถูกแอบบันทึกภาพและบทสนทนาระหว่างพูดคุยกับผู้สื่อข่าวชาวเยอรมันในเรื่องการใช้สารต้องห้ามในวงการยกน้ำหนักไทย และมีการละเมิดโดยใช้สารต้องห้ามขณะเป็นนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย พร้อมกับกล่าวหาว่า แคมป์ทีมชาติ มีการใช้สารต้องห้ามกับนักกีฬายกน้ำหนักตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่ง ณ เวลานั้น เป็นวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ศิริภุช ได้ออกจากการเป็นนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยแล้ว โดยมาประกอบอาชีพรับจ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทางการตลาดขายคอร์สฝึกอบรม ณ ฟิตเนสแห่งหนึ่งในพัทยา
ผู้สื่อข่าวชาวเยอรมันคนดังกล่าว ซึ่งมาพร้อมกับล่ามผู้หญิงไทย แจ้งชื่อปลอมกับศิริภุช มีการพูดจาสนทนาหลอกล่อว่า สนใจจะขอมาเป็นลูกค้าโดยยินดีจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือน ๆ ละ 6 หมื่นบาท จากนั้นแอบบันทึกการสนทนาที่เป็นการพูดคุยกึ่งถามนำให้ศิริภุช ยอมรับว่า เคยใช้สารต้องห้ามประเภทสเตียรอยด์ ขณะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย จนทำให้ องค์กรทดสอบสารต้องห้ามระหว่างประเทศ (ITA) ตั้งข้อกล่าวหาเพื่อเรียกร้องให้มีการริบเหรียญทองแดง รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง โอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ 2012 และอีกหลายรายการที่มีการรับรองโดยสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) หรือ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) โดยยื่นสำนวนทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามกระบวนการชั้นต้นของธรรมนูญของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) และองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 โดยวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ล่าสุด ได้รับข่าวดี โดยตน ในฐานะผู้ประสานงานทางกฎหมายให้กับ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช (รัตติกาล) ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการไต่สวนอิสระ (Hearing Panel) ซึ่งประกอบด้วย นายเซอร์เก วิทตอซ (สวิสเซอร์แลนด์) นายไทรฟ์เก้ ดันน์ (นอรเวย์) และ นาย ไคล์ เพียร์ซ (สหรัฐอเมริกา) มีคำตัดสินออกมาเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 มีมติว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวของ ITA ให้ยกและพับตกไป เนื่องจากปราศจากข้อเท็จจริง โดยวัตถุพยานที่เป็นคลิปวิดิทัศน์ที่นำมาเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2563 ถูกนำมาตัดต่อดัดแปลงให้เหลือเพียง 3 นาที ซึ่งพาดพิงถึงศิริภุชนั้น ปราศจากความน่าเชื่อถือและไม่มีข้อเท็จจริงปรากฎเป็นดังข้อกล่าวหาแต่อย่างใดเลย
ประเด็นสำคัญการกระทำดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของศิริภุช เนื่องจากไม่ได้รับการอนุญาตจากศิริภุชเพื่อเผยแพร่ของตนออกอากาศทางสาธารณะ อันแสดงถึงเจตนาละเมิดโดยการแอบบันทึกและใช้คำถามนำเพื่อชักจูงไปสู่คำตอบที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ITA มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของคณะไต่สวนอิสระฯ ได้ โดยต้องยื่นต่อศาลกีฬาโลกภายใน 21 วันหลังจากได้รับคำตัดสิน
“เรื่องนี้เรามีการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนักกีฬาและสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กันมานาน นอกจากนี้แล้ว คำตัดสินของคณะกรรมการไต่สวนอิสระฯ ทำให้วงการยกน้ำหนักในประเทศไทยพ้นมลทิน ถือว่าคุ้มค่ากับแรงกายแรงใจที่ทุกท่านในทีมงานได้ทุ่มเทกันอย่างหนัก ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยที่ติดตามข่าวและส่งข้อความมาให้กำลังใจกันตลอดเวลา สำหรับปุ๊กลุกเองก็มีการแจ้งความในคดีอาญาไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วน ITA จะอุทธรณ์หรือไม่ก็ต้องรอดู ถ้าเค้าทำ เราก็คงต้องเดินหน้าสู้กันต่อไป“ นายนิพนธ์ กล่าว

คณะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยชุดที่สองเดินทางสมทบทีมแรก เพื่อร่วมแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่15-25 กรกฏาคม 2565 ที่กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (17 ก.ค.)

นางธรพรรษธร วจีธัญเจริญกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทีม นำคณะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ประกอบด้วย วรพรต นาสุริวงศ์ นักกีฬายุวชนชายรุ่น 73 กิโลกรัม , ทิพย์วรา จรถวิล รุ่น 64 กิโลกรัมหญิง และ ดวงกมล คงทอง รุ่น 76 กิโลกรัมหญิงในประเภทเยาวชน พร้อมด้วย สิบตำรวจโทหญิง ชุติกาญจน์ ผาลใจ ผู้ฝึกสอน เดินทางไปยังประเทศอุซเบกิสถาน โดยขาด ปริฉัตร กุนรา และ สุรัสวดี ยอดสาร สองนักกีฬาเยาวชนรุ่น 59 กิโลกรัมหญิง เนื่องจากป่วยก่อนเดินทาง ทำให้สภาพร่างกายไม่พร้อม สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยจึงตัดสินใจให้ทั้งคู่ถอนตัวจากการแข่งขัน เพื่อรักษาร่างกายและเตรียมความพร้อมสำหรับแข่งขันรายการต่อไป

"ทางสมาคมฯ ได้รับรายงานจากกลุ่มผู้ฝึกสอนที่แคมป์เชียงใหม่ว่า สุรัสวดีและปริฉัตร ป่วยก่อนเดินทางไม่นาน ทำให้ร่างกายกลับมาฟิตไม่ทันการแข่งขัน จึงปรึกษากันว่า ให้ทั้งคู่ถอนตัวไปดีกว่า สมาคมฯ เองก็ยังมีหลายรายการที่จะต้องวางแผนส่งนักกีฬาไปแข่งขัน ในอนาคตทั้งคู่ยังมีโอกาสสร้างผลงานได้อีก" พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมฯ กล่าว