ข่าวประชาสัมพันธ์

4 จอมพลังทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิก ปารีส 2024 สุรจนา คำเบ้า, ดวงอักษร ใจดี, ธีรพงศ์ ศิลาชัย และ วีรพล วิชุมา ฮึกเหิม หลังกราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ (พระอาจารย์อารยวังโส) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน พร้อมรับหลักธรรมในการพัฒนากาย จิต เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการกีฬา ก่อนเดินทางไปทำศึกใหญ่ ในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

ความเคลื่อนไหวของนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ล่าสุด พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, นางบุษบา ยอดบางเตย ประธานที่ปรึกษาฯ, พลเอก วิสุทธิ์ เดชสกุล เลขาธิการฯ, พลอากาศโท วัฒนชัย เจริญรัตน์ กรรมการบริหารและประธานฝ่ายเทคนิค พร้อมด้วย นักกีฬาทั้ง 4 คน ได้แก่ สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง, ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 81 กิโลกรัมหญิง, ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กิโลกรัมชาย และ วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กิโลกรัมชาย รวมถึงคณะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย กราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ (พระอาจารย์อารยวังโส) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย ในพระราชูปถัมภ์ จังหวัดลำพูน ซึ่งสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ นิมนต์มาที่ศูนย์ฝึกยกน้ำหนักทีมชาติไทย ภายในกองพันพัฒนาที่ 3 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567

พระราชวัชรสุทธิวงศ์ ได้ให้หลักธรรมในการพัฒนาศักยภาพกาย จิต เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการกีฬา และกล่าวให้พร เพื่อเป็นสิริมงคล แก่คณะนักกีฬายกน้ำหนักของไทย อีกทั้งยังเป็นสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี ให้กับจอมพลังชุดไปลุยศึกใหญ่ อย่าง โอลิมปิก ปารีส 2024 ที่ทั้งนักกีฬา และทีมงานผู้ฝึกสอน มีกำหนดไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

วันเดียวกัน สมาคมฯ ยังได้จัดการแข่งขันจำลองเพื่อทดสอบนักกีฬาชุดกลางและชุดเล็กทั้งชายและหญิง ที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มี ดร.สิริลักษณ์ ทัดมั่น รองเลขาธิการฯ และผู้ตัดสิน, นางสาวสุนันทา เทียมเพ็ชร ที่ปรึกษาและผู้ตัดสิน, นายสมพร และนางจันทร์แดง วัลลิยะเมธี ผู้ตัดสิน รวมถึง นางสาวจีระนันท์ พิมมนตรี เจ้าหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ตัดสิน เป็นผู้ดูแลการทดสอบครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามพัฒนาการและความพร้อมของนักกีฬา ประกอบการพิจารณาของสมาคมฯ ในการส่งแข่งขันรายการต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมต่อไป

พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และนางบุษบา ยอดบางเตย ประธานที่ปรึกษาฯ ร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ พร้อมคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมยกน้ำหนักทีมชาติไทยชุดสู้ศึกโอลิมปิก 2024 "ปารีสเกมส์" เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ที่ร้านอาหารฟูมิ เซ็นทรัลเฟสติวัล จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567

“เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานฟอนซา และ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ แนะฝ่ายจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของไทย ควรต้องบรรจุ ยกน้ำหนัก ไว้ในการแข่งขันด้วย หลังการประกาศรายชื่อกีฬารอบแรก หลุดโผ ทั้ง ๆ ที่มีนโยบายยกระดับซีเกมส์ใหม่ ด้วยบรรจุกีฬาที่มีในโอลิมปิก และเอเชียนเกมส์เข้าไป ซึ่งยกน้ำหนัก เป็นกีฬาระดับโอลิมปิกชัดเจน ขณะเดียวกันทราบจากชาติสมาชิกก็เริ่มมีเสียงสะท้อนหลายกีฬาตกหล่น โดยเฉพาะ คาราเต้ หนึ่งในกีฬาโอลิมปิกก็ไม่มีเช่นกัน

ตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดการชิงชัย ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 (ค.ศ.2025) ที่กรุงเทพฯ ชลบุรี และ สงขลา ของไทย มีนโยบายยกระดับกีฬาซีเกมส์ ร่วมกับชาติที่จะเป็นเจ้าภาพในอีก 2 ครั้งถัดไป ทั้ง มาเลเซีย ปี 2027 และสิงคโปร์ ปี 2029 ด้วยการบรรจุกีฬามาตรฐานสากล ที่มีในโอลิมปิกเกมส์​ และเอเชียนเกมส์ และลดจำนวนกีฬาพื้นบ้านลง แต่ทว่าจากการประกาศรายชื่อชนิดกีฬารอบแรก 40 ชนิด ปรากฎว่า ไม่มีกีฬายกน้ำหนัก หนึ่งในกีฬาระดับโอลิมปิก

เรื่องนี้ “เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ (ฟอนซา) และ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการประกาศรายชื่อชนิดกีฬา ในกีฬาซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพปีหน้า ในรอบแรก ทราบว่า ไม่มีกีฬายกน้ำหนัก ซึ่งเป็นกีฬาโอลิมปิกชัดเจน ดังนั้น ฝ่ายจัดการแข่งขันควรต้องทบทวนใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ต้องการจะยกระดับมาตรฐานกีฬาซีเกมส์

“ในหลักการ หากต้องการยกระดับซีเกมส์ ก็ควรต้องจัดกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิก ทั้ง 32 ชนิดกีฬาก่อน แล้วเพิ่มกีฬาพื้นบ้าน มวยไทย และตะกร้อ เท่านั้นพอ แต่ในเบื้องต้น มีการเสนอจัดไปแล้วถึง 40 ชนิดกีฬาเลย ถือว่าเป็นจำนวนที่มากเกินไป” พลตรีอินทรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ประธานฟอนซา ยังได้ระบุด้วยว่า ขณะเดียวกัน ทราบจากชาติสมาชิกหลายชาติ ก็เร่ิมมีเสียงสะท้อน ว่า หลายกีฬาตกหล่นไป โดยเฉพาะ คาราเต้ หนึ่งในกีฬาโอลิมปิกเช่นกัน ก็ไม่มีอยู่ในรายชื่อชนิดกีฬา ที่ประกาศออกมาในรอบแรก

อนึ่ง สำหรับ 40 ชนิดกีฬาที่ประกาศออกมาในเบื้องต้น ที่จะบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน

กลุ่มแรก กีฬาหลัก คือ กรีฑา และ ว่ายน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, ระบำใต้น้ำ, ว่ายน้ำมาราธอน)

กลุ่ม 2 โอลิมปิก - เอเชียนเกมส์ สปอร์ต ประกอบด้วย กีฬาจากโอลิมปิก ยิงธนู, แบดมินตัน, บาสเกตบอล (5x5, 3x3), เรือพาย, เรือแคนู, จักรยาน, ฟันดาบ, ฟุตบอล (ชาย, หญิง), กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ฮอกกี้, ฮอกกี้น้ำแข็ง, ยูโด, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส , ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, มวยปล้ำ, สเก็ตน้ำแข็ง, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เบสบอล (ชาย) - ซอฟท์บอล (หญิง), มวยสากลสมัครเล่น, ขี่ม้า-ขี่ม้าโปโล, รักบี้ 7 คน, เรือใบ ส่วนชนิดกีฬาจากเอเชียนเกมส์ (รวมถึงกีฬาในเอเชียน อินดอร์เกมส์ - เอเชียน มาร์เชียล อาร์ตเกมส์) ฟุตซอล, มวย(มวยไทย), ปันจักสีลัต, เปตอง, เซปักตะกร้อ, บิลเลียดและสนุกเกอร์, อีสปอร์ต

และ กลุ่มที่ 3 (บรรจุได้สูงสุด 4 กีฬา-ไม่เกิน 8 เหรียญทอง) ได้แก่ ฟลอร์บอล, คิกบ็อกซิ่ง, เทคบอล, เน็ตบอล
ขณะที่ กีฬาที่จัดแสดงในการแข่งขัน จะมี ชักเย่อ และ จานร่อน

ทั้งนี้ จากข้อมูลในพิธีลงนามเซ็นสัญญาการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของประเทศไทย เมื่อวันก่อน มีการระบุว่า เบื้องต้นฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้รับการเสนอมา 40 ชนิดกีฬา ส่วนจะเพิ่มหรือลด จะให้เวลาอีก 2 เดือน ในการนำเสนอและพิจารณา