"เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้การส่งนักกีฬาไปแข่งขันระดับนานาชาติต้องให้ความสำคัญอย่างเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากสมาคมกีฬายกนำ้หนักฯ วางแผนเตรียมนักกีฬาระยะยาวมุ่งสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส, โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2028 ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปจนถึงโอลิมปิกเกส์ ค.ศ.2032 ที่นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย โดยวางแผนจะเก็บตัวนักกีฬา 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นยุวชน, รุ่นเยาวชน และรุ่นประชาชน แต่ละรุ่นจะมีนักกีฬาหญิง 10 คน และนักกีฬาชาย 10 คน รวมจะมีนักกีฬาราว 60 คน

"ต้องยอมรับว่านักกีฬาหลายชาติมีพัฒนาการที่ดีมาก ดังนั้น ทีมยกนำ้หนักไทยจึงต้องเตรียมทีมให้ดีที่สุด การที่มีนักกีฬาในแคมป์ 60 คนเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก การบริหารจัดการต้องทำให้รอบคอบรัดกุม โดยได้เน้นย้ำให้คณะทำงานและทีมผู้ฝึกสอนดูแลในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง สภาพร่างกายนักกีฬา งบประมาณ การฝึกซ้อม โภชนาการ จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นต้น"

สำหรับสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ในปีนี้ยังมีการแข่งขันระดับนานาชาติอีก 2 รายการ ได้แก่ การแข่งขันยกนำ้หนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 6-16 ตุลาคม ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ส่งนักกีฬาดาวรุ่งลงชิงชัยจำนวน 5 คน แบ่งเป็นนักกีฬาหญิง 3 คน ได้แก่ โป๊ยเซียน ยอดสาร รุ่น 55 กิโลกรัมหญิง, ทิพย์วรา จรถวิล รุ่น 64 กิโลกรัมหญิง, ดวงกมล คงทอง นักกีฬารุ่น 76 กิโลกรัมหญิง และนักกีฬาชาย 2 คน ได้แก่ จ่าเอกอนุชา ดวงศรี รุ่น 67 กิโลกรัมชาย และ รุ่งสุริยา ปัญญะ รุ่นน้ำหนักมากกว่า 109 กิโลกรัมชาย ขณะที่การแข่งขันยกนำ้หนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ระหว่างวันที่ 5-16 ธันวาคม ที่กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย จะพิจารณารายชื่อนักกีฬาอีกครั้ง

ทั้งนี้ ในวันที่ 22 กันยายน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีกำหนดเข้าตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมของนักกีฬายกนำ้หนักทีมชาติไทย ภายในกองพันพัฒนาที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่