ข่าวประชาสัมพันธ์

จอมพลังทีมชาติไทย ออกเดินทางไปทำศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 1-11 พ.ย.นี้ ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน แล้ว โดย 4 นักยกลูกเหล็กไทย พร้อมประเดิมสนาม วันที่ 2 พ.ย.นี้ ลุ้น จิราพรรณ นันทวงษ์, ธัญญ่า สุขเจริญ รุ่น 45 กก.หญิง รวมถึง ธีรพัฒน์ ชมชื่น, ธาดา สมบูรณ์อ้วน รุ่น 55 กก.ชาย คว้าเหรียญรางวัล “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เผยรายการนี้ จอมพลังจีน จะได้กลับมาแข่งขันเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี หลังจากถูกแบนเรื่องสารกระตุ้นต้องห้าม ไปก่อนหน้านี้ 

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเตรียมทีมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักกีฬามีความพร้อมอย่างเต็มที่ สถิติออกมาเป็นที่น่าพอใจ ล่าสุดจอมพลังทีมชาติไทย ได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 1-11 พ.ย.นี้ ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยสายการบิน TKM แอร์ไลน์ เที่ยวบิน T5 648 เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา  โดยมีนายนิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ เลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เป็นผู้แทนสมาคมฯ ไปส่งนักกีฬา

“สำหรับรายการชิงชนะเลิศแห่งโลกครั้งนี้ จอมพลังจีน จะได้กลับมาแข่งขันเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี หลังจากถูกแบนเรื่องสารกระตุ้นต้องห้าม ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากนักกีฬาของไทย ก็มีความพร้อมไม่ได้น้อยไปกว่ากัน ก็ต้องไปสู้กันบนเวที ส่วนโปรแกรมการแข่งขัน 4 นักยกลูกเหล็กไทย จะประเดิมสนาม วันที่ 2 พ.ย.นี้ โดย จิราพรรณ นันทวงษ์, ธัญญ่า สุขเจริญ รุ่น 45 กก.หญิง รวมถึง ธีรพัฒน์ ชมชื่น, ธาดา สมบูรณ์อ้วน รุ่น 55 กก.ชาย มีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัล และเก็บคะแนนสะสม สำหรับไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว

อนึ่งสำหรับการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 1-11 พ.ย.นี้ ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ส่งนักกีฬา 19 คนไปชิงชัย แบ่งเป็นหญิง 10 คน จิราพรรณ นันทวงษ์ รุ่น 45 กก., ธัญญ่า สุขเจริญ รุ่น 45 กก., ชยุตรา ประมงคล รุ่น 49 กก., “แนน” โสภิตา ธนสาร รุ่น 49 กก. ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016, “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช รุ่น 55 กก. ดีหรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 , “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว รุ่น 59 กก. เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย, รัตนวรรณ์ วามะลุน รุ่น 64 กก., สิริยากร ไขพันดุง รุ่น 76 กก., ชิดชนก พูลทรัพย์สกุล รุ่นเกินมากกว่า 87 กก., ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 87 กก.

ฝ่ายชาย 9 คน ธีรพัฒน์ ชมชื่น รุ่น 55 กก., ธาดา สมบูรณ์อ้วน รุ่น 55 กก., ปฏิภาณ บุบผามาลา รุ่น 61 กก., วิษณุ จันทรี รุ่น 67 กก., เจตริน ศรีราม รุ่น 67 กก., ไตรรัตน์ บุญสุข รุ่น 73 กก., พันจ่าเอกพรชัย ลบศรี รุ่น 81 กก., บัญญัติ ท้าวนอก รุ่น 89 กก., ศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น 96 กก.

พร้อมมอบหมายให้ พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับหน้าที่ผู้จัดการทีม ส่วนผู้ฝึกสอน ได้แก่ นายหลิว หนิง, จ่าเอกหญิงสายพิณ เดชแสง, จ่าสิบเอกสุรพงษ์ วัฒนากสิกรรม, ว่าที่ร้อยตรี ศักดิ์ชัย ธิตะจารี, จ่าสิบเอกนพดล วันหวัง, สิบโทขวัญชัย นุชพุ่ม โดยมี นพ.ศิริพจน์ ศรีบัณฑิตกุล เป็นแพท์ประจำทีม

ข่าวประชาสัมพันธ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ วันที่ 5 ก.ย.2561

เปิดระบบคัดจอมพลังไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 แบบใหม่ สุดเข้มข้น เดิมแค่เก็บคะแนนในรายการชิงแชมป์โลก แต่จากนี้ จะเก็บแต้มในหลากหลายรายการ และมีการแบ่งเกรดรายการ โกลด์ ซิลเวอร์ และบรอนซ์ ซึ่งนักกีฬาต้องเข้าร่วมการชิงชัยให้ครบถ้วนตามที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้สิทธิ์ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เผย นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนจากระบบโควต้าประเทศ เป็นตัวบุคคล ที่จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันแทนอีกด้วย เหตุผลที่ต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เป็นเพราะสร้างมาตรฐาน คนที่จะไปโอลิมปิกได้ ต้องเจ๋งจริง และไม่มีโด๊ป เข้ามาเกี่ยวข้องระหว่างทางของการคัดเลือก

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในฐานะรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เปิดเผยว่า สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ได้ข้อสรุประบบใหม่ของการคัดเลือกนักกีฬายกน้ำหนัก ไปเข้าร่วมในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดยจากเดิมแค่เก็บคะแนนในรายการชิงแชมป์โลก ก่อนโอลิมปิกเกมส์ 2 ปี แต่จากนี้ จะเก็บแต้มในหลากหลายรายการ และมีการแบ่งเกรดรายการ เป็น โกลด์ ซิลเวอร์ และบรอนซ์ ซึ่งนักกีฬาต้องเข้าร่วมการแข่งขันให้ครบถ้วน และบังคับว่าจะต้องมีรายการระดับโกลด์ ติดอยู่ด้วยใน 3 ช่วงเวลาที่กำหนดไว้ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้คะแนน ไม่ได้สิทธิ์ไปชิงชัยโอลิมปิกรอบสุดท้าย

สำหรับระบบการคัดเลือกใหม่ นักกีฬาต้องเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยกว่า 6 ครั้ง ในรายการที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ รับรอง ในระหว่างรอบคัดเลือก (18 เดือน) แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงแรก วันที่ 1 พ.ย.2561-30 เม.ย.2562 ช่วงที่ 2 วันที่ 1 พ.ค.2562-31 ต.ค.2562 และช่วงที่ 3 วันที่ 1 พ.ย.2562-30 เม.ย.2563 โดยนักกีฬาต้องเข้าร่วมอย่างน้อย 1 รายการ ในแต่ละช่วงการแข่งขัน (ระดับโกลด์)

รายการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับโกลด์ มี ชิงแชมป์โลก, เยาวชนชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์ทวีป และเยาวชนชิงแชมป์ทวีป, ระดับซิลเวอร์ มี รายการระดับมหกรรมกีฬา เป็นต้น และระดับบรอนซ์ รายการต่าง ๆ ของประเทศต่าง ๆ เช่น รายการ EGAT ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ คิงส์คัพ ของไทย โดยนักกีฬาต้องเข้าร่วมอย่างน้อย 1 รายการในระดับโกลด์ และอีก 1 รายการในระดับโกลด์ หรือซิลเวอร์ และบรอนซ์

พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ยังเปลี่ยนการคัดเลือกนักกีฬาไปโอลิมปิกเกมส์ จากระบบโควต้าประเทศ ให้ที่นั่งประเทศ เป็นตัวบุคคล ที่จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันแทนอีกด้วย เหตุผลที่ต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เป็นเพราะสร้างมาตรฐาน คนที่จะไปโอลิมปิกได้ ต้องพร้อมจริง ๆ และไม่มีเรื่องสารกระตุ้น เข้ามาเกี่ยวข้องระหว่างทางของการคัดเลือก

อนึ่งสำหรับรุ่นการแข่งขันยกน้ำหนักใหม่ ของประชาชน และเยาวชน ที่จะเร่ิมใช้เดือนพ.ย.นี้ มีดังนี้ ฝ่ายชาย รุ่นน้ำหนักสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ มี 55, 61, 67, 73, 81, 89, 96, 102, 109 และมากกว่า 109 กก. ส่วนโอลิมปิก มี 61, 67, 73, 81, 96, 109 และมากกว่า 109 กก. ขณะที่ฝ่ายหญิง รุ่นน้ำหนักสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ มี 45, 49, 55, 59, 64, 71, 76, 81, 87 และมากกว่า 87 กก. ส่วนโอลิมปิก มี 49, 55, 59, 64, 76, 87 และมากกว่า 87 กก. ด้านรุ่นน้ำหนักของยุวชน ฝ่ายชาย มี 49, 55, 61, 67, 73, 81, 89, 96, 102 และมากกว่า 102 กก. ขณะที่ฝ่ายหญิง มี 40, 45, 49, 55, 59, 64, 71, 76, 81 และมากกว่า 81 กก.

น้องส้ม-ดวงอักษร ใจดี จอมพลังสาวไทยรุ่น +75 กก.หญิง สร้างผลงานยอดเยี่ยมประเดิมการแข่งขันเวทีเอเชียนเกมส์ครั้งแรกของตัวเอง ด้วยการคว้าเหรียญทองแดงเพิ่มให้ทัพนักกีฬาไทย ซึ่งเป็นเหรียญส่งท้ายของทัพจอมพลังไทยในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย โดยน้องส้มยกท่าสแนทช์ได้ 121 กก., คลีน&เจิร์กได้ 159 กก. น้ำหนักรวม 280 กก.

ส่วนอีกหนึ่งจอมพลังสาวไทย น้องนก-ชิดชนก พูลทรัพย์สกุล เจ้าของเหรียญทองแดงเมื่อ 4 ปีก่อน ทำสถิติท่าสแนทช์ได้ 121 กก., คลีน&เจิร์กได้ 147 กก. น้ำหนักรวม 268 กิโลกรัม จบอันดับ 5 

สรุปผลงานทัพนักยกน้ำหนักไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ เข้าร่วมแข่งขัน 15 คน คว้าได้ 1 เหรียญเงิน, 6 เหรียญทองแดง