ข่าวประชาสัมพันธ์

ศึก EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเปิดฉาก วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

การแข่งขัน EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเปิดฉาก วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่อาคารกีฬา 1 ศูนย์กีฬาสะพานหิน เทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ความเคลื่อนไหว ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 พลอากาศโทวัฒนชัย เจริญรัตน์ อุปนายก และประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และพันเอก ศิขรัชฐ์ เอมโกษา หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการฯ เป็นผู้แทนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย อัญเชิญถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐาน ที่โต๊ะหมู่บูชา ชั้น 3 อาคารเทศบาลนครภูเก็ต จากนั้น นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดกรวยกระทงบนธูปเทียนแพถวายสักการะ ก่อนถ่ายภาพหมู่ร่วมกันระหว่างผู้แทนสมาคมฯ กับคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครภูเก็ต

ส่วนความพร้อมของการแข่งขัน พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมฯ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางจังหวัดภูเก็ต โดย เทศบาลนครภูเก็ต และ สมาคมฯ ได้ร่วมมือกัน เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภายในสนามแข่ง สนามฝึกซ้อม หรือ ฟลอร์วอร์ม และเมื่อช่วงเช้ามีการประชุมผู้จัดการทีม เพื่อชี้แจงกฎข้อบังคับต่างๆ ตลอดจนย้ำถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ผู้ร่วมแข่งขันต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

สำหรับการแข่งขัน EGAT (อีแกท) ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2564 ที่อาคารกีฬา 1 ศูนย์กีฬาสะพานหิน เทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางมาชมที่สนามได้จำนวนไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ หรือชมผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียของสมาคมฯ ทั้งทาง Facebook/thailand tawa สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย หรือ Youtube : Thailand TAWA Official และเว็บไซต์ www.tawa.or.th

อาณัติ วิเศษรจนา ผู้จัดการทีมยกน้ำหนักทีมชาติ ชุดทำศึกชิงแชมป์โลก 2021 ที่อุซเบกิสถาน พอใจผลงานครึ่งทางแรก ที่จอมพลังไทย ช่วยกันคว้ามาได้ 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง หลังต้องห่างหายไปจากเวทีระดับโลกนานเกือบ 3 ปี ส่วนช่วงครึ่งทางหลัง ยังมีลุ้นเหรียญเพิ่มอีก แม้จะเป็นการแข่งขันในรุ่นน้ำหนักที่มากขึ้นและสรีระของนักกีฬาไทยค่อนข้างเสียเปรียบต่างชาติ ก็ตาม ส่วนผลการแข่งขันล่าสุด “บีม” รสสุคนธ์ สอนแก้ว รุ่น 64 กก.หญิง ท่าสแนทช์ ได้อันดับ 10 ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก อันดับ 5 และน้ำหนักรวม อันดับ 8

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2021 ที่ยูนูโซบอด สปอร์ต คอมเพล็กซ์ กรุงทาซเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้ มีจอมพลังกว่า 432 คน จาก 74 ชาติ เข้าร่วม โดยหลังจาก ทีมจอมพลังไทย ช่วยกันคว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดย “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหมาคนเดียว 3 เหรียญทอง รุ่น 49 กก.หญิง ส่วน “อาร์ม” ธรรญธร สุขข์เจริญ คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รุ่น 45 กก.หญิง ขณะที่ “ดา” ธาดา สมบุญอ้วน ได้ 1 เหรียญเงิน รุ่น 55 กก.ชาย และ “เลาะ” สุทธิพงษ์ จีรัมย์ ทำได้ 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รุ่น 73 กก.ชาย

นายอาณัติ วิเศษรจนา ผู้จัดทีมยกน้ำหนักทีมชายไทย เปิดเผยว่า ผลงานของนักกีฬายกน้ำหนักไทย หลังผ่านช่วงครึ่งทางแรกของการชิงชัยไปแล้วว่า เป็นไปตามที่ทีมได้คาดคะเน และวางแผนเอาไว้ ซึ่งหากดูจากศักยภาพของนักกีฬาเราแล้ว ต้องบอกว่าเป็นไปตามเป้า หลังคว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และถือเป็นนิมิตหมายทีดีหลังจากทีมชุดใหญ่ของเราห่างหายจากเวทีการแข่งขันในระดับนานาชาติไปนานเกือบ 3 ปี

ในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันรุ่นน้ำหนักจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องยอมรับด้วยว่าด้วยธรรมชาติของนักกีฬาไทย อาจจะเสียเปรียบตรงจุดนี้ ซึ่งการแบกน้ำหนักลงแข่งกับนักกีฬาต่างชาติ จึงต้องใช้ความพยายามมากขึ้น โอกาสอาจจะน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยเกมระดับชิงแชมป์โลก เด็ก ๆ ที่มาร่วมแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ก็ถือว่าได้บทเรียนและประสบการณ์ดี ๆ กลับไป อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเราอาจจะขยับเหรียญเพิ่มได้อีกในช่วงท้ายของการแข่งชิงชัย

ผู้จัดการทีมยกน้ำหนักไทย กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ ไม่มีจีน และเกาหลีเหนือ 2 ชาติมหาอำนาจเข้าร่วมแข่งขัน ตน ไม่อยากให้มองว่า เราได้เหรียญเพราะ 2 ชาติมหาอำนาจนี้ไม่ได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วม แต่อยากให้มองในอีกมุม เพราะแม้จะไม่มี 2 ชาติดังกล่าว แต่ทุกชาติที่ส่งทีมเข้าร่วม ต่างก็มุ่งหวัง มุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานเช่นกัน ดังนั้นการที่เราเป็นที่ 1 หรือคว้าเหรียญจากการแข่งขันเวทีระดับชิงแชมป์โลกแบบนี้ได้ คือสิ่งที่นักกีฬาและแฟนๆกีฬาไทยควรจะภาคภูมิใจ

"ในนามของผู้จัดการทีม และสมาคม เราเองมีความต้องการในทุกเหรียญรางวัล ไม่ว่าจะเป็น ทอง เงิน ทองแดง และส่วนของนักกีฬา ผมเชื่อว่า น้อง ๆ เองก็อยากจะลงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากได้เหรียญรางวัลก็จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต เพราะนอกจากได้จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและตัวเองแล้ว ก็จะมีเงินรางวัลอัดฉีดจากความสำเร็จเข้ามาด้วย" นายอาณัติ กล่าว

ส่วนผลการแข่งขัน ในวันที่ 6 ของการชิงชัย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา จอมพลังไทย มีคิวขึ้นเวทีจัดอันดับ รุ่น 81 กก.ชาย กลุ่มบี ซึ่งผลปรากฎว่า อส.ทพ. นนทพัฒน์ ธานีวรรณ ยก สแนทช์ 156 กก. ได้อันดับ 1 ของกลุ่ม ส่วนคลีนแอนด์เจิร์ก 187 กก. ได้อันดับ 2 ของกลุ่ม และน้ำหนักรวม 343 กก.ได้อันดับ 2 ของกลุ่ม ขณะที่ จ่าเอก ณัฐวุฒิ สืบสวน สแนทช์ 145 กก. ได้อันดับ 4 ของกลุ่ม คลีนแอนด์เจิร์ก 176 กก. ได้อันดับ 5 ของกลุ่ม และน้ำหนักรวม 321 กก. ได้อันดับ 4 ของกลุ่ม

ขณะที่ รุ่น 64 กก.หญิง กลุ่มเอ “บีม” รสสุคนธ์ สอนแก้ว จอมพลัง วัย 22 ปี เจ้าของ 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ยุวชนโลก 2016 เริ่มต้นท่าสแนทช์ ครั้งแรกเรียกเหล็ก 92 กก. แต่ยกไม่ผ่าน ก่อนออกมาแก้ตัวสำเร็จที่น้ำหนักเดิม ในครั้งที่ 2 จากนั้นครั้งที่ 3 เรียกเหล็ก 95 กก. ยกไม่ผ่าน ทำให้สถิติอยู่ที่ 92 กก. ได้อันดับ 10 ส่วนเหรียญทอง เป็นของ ซาอิด ฟาห์มี ซาอิด นีมา จากอียิปต์ 106 กก., เหรียญเงิน ฮัน จีอัน จากเกาหลีใต้ 99 กก., เหรียญทองแดง เฉิน เหว่ย-ฮุย จากไต้หวัน 97 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก รสสุคนธ์ ครั้งแรกยกไม่ผ่านที่ 117 กก. ก่อนออกมาแก้ตัวได้ในครั้งที่ 2 ที่น้ำหนักเดิม ส่วนครั้งที่ 3 เรียกเหล็ก 119 กก. ยกไม่ผ่าน ทำให้สถิติอยู่ที่ 117 กก. ไม่ได้อันดับ 5 ส่วนเหรียญทอง เป็นของ เฉิน เหว่ย-ฮุย จากไต้หวัน 135 กก., เหรียญเงิน ซาอิด ฟาห์มี ซาอิด นีมา จากอียิปต์ 127 กก., เหรียญทองแดง อนาสตาเซีย อันโซโรวา จากรัสเซีย 121 กก. น้ำหนักรวม รสสุคนธ์ สถิติ 209 กก. ได้อันดับ 8, เหรียญทอง ซาอิด ฟาห์มี ซาอิด นีมา จากอียิปต์ 233 กก., เหรียญเงิน เฉิน เหว่ย-ฮุย จากไต้หวัน 232 กก., เหรียญทองแดง พาร์ค มินคยุง จากเกาหลีใต้ 217 กก.

สรุปผลงานทีมยกน้ำหนักไทย ยังคงได้ 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

สำหรับโปรแกรมที่เหลือของจอมพลังไทย รายการนี้ มีดังนี้ วันที่ 13 ธ.ค. รุ่น 89 กก.ชาย กลุ่มบี จ่าโท พชรเมธี ธาระพันธ์ เวลา 12.30 น., รุ่น 71 กก.หญิง กลุ่มเอ สิริยากร ไขพันดุง เวลา 21.00 น., รุ่น 96 กก.ชาย กลุ่มดี อส.ทพ. วีรภัทร บุญหลั่ง เวลา 23.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. รุ่นมากกว่า 100 กก.ชาย กลุ่มซี รุ่งสุริยา ปัญญะ เวลา 10.00 น. และ รุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง กลุ่มเอ ดวงอักษร ใจดี เวลา 15.00 น.

“เลาะ” สุทธิพงษ์ จีรัมย์ จอมพลังหนุ่มไทย คว้า 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รุ่น 73 กก.ชาย ในศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2021 ที่อุซเบกิสถาน ส่วน “แจ็ค” อนุชา ดวงศรี ชวดโอกาสคว้าเหรียญทองแดง รุ่น 67 กก.ชาย ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อได้เพียงอันดับ 4 ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวม

รวมผลงานทีมยกเหล็กไทย ผ่านไป 4 วัน ได้ไปแล้ว 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2021 ที่ยูนูโซบอด สปอร์ต คอมเพล็กซ์ กรุงทาซเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้ มีจอมพลังกว่า 432 คน จาก 74 ชาติ เข้าร่วม โดยหลังจากผ่าน 3 วันแรก ทัพจอมพลังไทยคว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดย “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหมาคนเดียว 3 เหรียญทอง รุ่น 49 กก.หญิง ส่วน “อาร์ม” ธรรญธร สุขข์เจริญ คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รุ่น 45 กก.หญิง และ “ดา” ธาดา สมบุญอ้วน ได้ 1 เหรียญเงิน รุ่น 55 กก.ชาย

ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา จอมพลังไทยมีโปรแกรมขึ้นเวทีลุ้นเหรียญรางวัลอีก 2 คน ได้แก่ รุ่น 67 กก.ชาย กลุ่มเอ อนุชา ดวงศรี และรุ่น 73 กก.ชาย กลุ่มเอ สุทธิพงษ์ จีรัมย์ เริ่มด้วยรุ่น 67 กก.ชาย กลุ่มเอ ท่าสแนทช์ “แจ็ค” อนุชา ดวงศรี จอมพลังหนุ่มไทย วัย 23 ปี จากกรุงเทพฯ ยกได้ 138 กก. ได้อันดับ 5 ส่วนเหรียญทองเป็นของ ซูลฟัต การาเยฟ จากรัสเซีย 146 กก., เหรียญเงิน ดอสตัน โยคูบอฟ จากอุซเบกิสถาน 144 กก., เหรียญทองแดง ทัลฮา ทาลิบ จากปากีสถาน 143 กก. จากนั้น ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก อนุชา ยกได้ 174 กก. เท่ากับ อัดคามจอน เออร์กาเชฟ จากอุซเบกิสถาน แต่ อนุชา ยกได้ทีหลัง จึงได้อันดับ 4 ท่านี้ พลาดเหรียญทองแดง ไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนเหรียญทอง เป็นของ ดอสตัน โยคูบอฟ จากอุซเบกิสถาน 180 กก., เหรียญเงิน วาเลนเซีย ฟรานซิสโก แอนโทนีโอ มอสคิวลา จากโคลอมเบีย 179 กก. น้ำหนักรวม อนุชา ทำสถิติได้ 312 กก. ได้อันดับ 4 พลาดเหรียญทองแดง อีกเช่นกัน ส่วนเหรียญทอง ดอสตัน โยคูบอฟ จากอุซเบกิสถาน 324 กก., เหรียญเงิน วาเลนเซีย ฟรานซิสโก แอนโทนีโอ มอสคิวลา จากโคลอมเบีย 316 กก., เหรียญทองแดง ซูลฟัต การาเยฟ จากรัสเซีย 315 กก.

ส่วนรุ่น 73 กก.ชาย กลุ่มเอ ท่าสแนทช์ ครั้งแรก “เลาะ” สุทธิพงษ์ จีรัมย์ เจ้าของ 3 เหรียญทองยุวชนและเยาวชนเอเชีย ปี 2560 เรียกเหล็ก 150 กก., ครั้งที่ 2 เรียก 154 กก. ยกผ่านตามลำดับ ครั้งที่ 3 เรียกเหล็ก 156 กก. แต่ยกไม่ผ่าน สถิติอยู่ที่ 154 กก. ได้เหรียญเงิน ไปครอง ขณะที่ ไบรเคน คาลจา จากแอลเบเนีย ออกมายกครั้งสุดท้ายผ่านที่ 156 กก. คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนเหรียญทองแดง เซอร์จี้ เปตรอฟ จากรัสเซีย 153 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ครั้งแรก สุทธิพงษ์ เรียกเหล็ก 180 กก. ยกไม่ผ่าน แม้จะออกมาแก้ตัวครั้งที่ 2 ก็ยังไม่สำเร็จ จากนั้นครั้งที่ 3 ยังเรียกที่น้ำหนักเดิม ก่อนงัดพลังดันเหล็กขึ้นได้สำเร็จ สถิติอยู่ที่ 180 กก. ได้อันดับ 5, เหรียญทอง อับดุลลาห์ ราห์แมต เออร์วิน จากอินโดนีเซีย 192 กก., เหรียญเงิน ไบรเคน คาลจา จากแอลเบเนีย 186 กก., เหรียญทองแดง จอง ฮันซอ จากเกาหลีใต้ 181 กก. น้ำหนักรวม สุทธิพงษ์ สถิติ 334 กก. ดีพอได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทอง อับดุลลาห์ ราห์แมต เออร์วิน จากอินโดนีเซีย 343 กก., เหรียญเงิน ไบรเคน คาลจา จากแอลเบเนีย 342 กก. รวมแล้ว สุทธิพงษ์ คว้าไป 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รับอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 1,400,000 บาท (หลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รายการชิงแชมป์โลก เหรียญทองได้รับ 1,5000,000 บาท เหรียญเงิน 1,000,000 บาท เหรียญทองแดง 400,000 บาท)

สรุปผลงานจอมพลังไทย คว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

สำหรับโปรแกรมที่เหลือของจอมพลังไทย ในรายการนี้ มีดังนี้ วันที่ 12 ธ.ค. รุ่น 81 กก.ชาย กลุ่มบี ณัฐวุฒิ สืบสวน และ นนทพัฒน์ ธานีวรรณ เวลา 15.00 น., รุ่น 64 กก.หญิง กลุ่มเอ รสสุคนธ์ สอนแก้ว เวลา 18.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. รุ่น 89 กก.ชาย กลุ่มบี พชรเมธี ธาระพันธ์ เวลา 12.30 น., รุ่น 71 กก.หญิง กลุ่มเอ สิริยากร ไขพันดุง เวลา 21.00 น., รุ่น 96 กก.ชาย กลุ่มดี วีรภัทร บุญหลั่ง เวลา 23.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. รุ่นมากกว่า 100 กก.ชาย กลุ่มซี รุ่งสุริยา ปัญญะ เวลา 10.00 น. และ รุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง กลุ่มเอ ดวงอักษร ใจดี เวลา 15.00 น.